แกเร็ธ เบล แขวนสตั๊ด

แกเร็ธ เบล แขวนสตั๊ด ด้วยวัยเพียง 33 ปี หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากในชีวิตค้าแข้งด้วยผลงานคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 5 สมัย และแชมป์ลาลีกา 3 สมัย และปีกจรวดชาวเวลส์มีเส้นทางการค้าแข้งที่มหัศจรรย์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคือนักเตะที่ดีสุดในประวัติศาสตร์ของ เวลส์ ซึ่งหลายคนเสียดายที่เห็น แกเร็ธ เบล แขวนสตั๊ด เขาอำลาวงการฟุตบอลเร็วเกินไป

นักเตะแมนซิตี้ จากไรท์-ฟิลลิปส์ถึงโฟเดน สุดยอดนักเตะ จากอะคาเดมีนี้

แกเร็ธ เบล แขวนสตั๊ด กับ 11 โมเม้นท์สำคัญบนเส้นทางลูกหนัง

11.พาเวลส์ผลงานเยี่ยมใน ยูโร 2016

เวลส์ อาจทำผลงานไม่ดีในฟุตบอลโลก 2022 แต่ในศึก ยูโร 2016 พวกเขาคือทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์ประจำทัวร์นาเม้นท์ และเบล คือหัวใจสำคัญของทัพมังกรแดง และเขาเป็นผู้ทำประตูแรกของทัวร์นาเม้นท์ในเกมกับ สโลวะเกีย เก็บสามคะแนนสำคัญและมีส่วนให้ทีมผ่านเข้ารอบในฐานะรองแชมปืกลุ่ม และมังกรแดง ผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะพ่ายต่อ โปรตุเกส ผ่านเข้าชิงชนะเลิศไม่สำเร็จ แต่นี่ถือเป็นทัวร์นาเม้นท์แห่งความฝันของพวกเขา

10.ฟรีคิกสำคัญพา เวลส์ ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์

เวลส์ คว้าตั๋วเข้ามาเล่นฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กาตาร์ได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะ ยูเครน ในรอบคัดเลือกที่ คาร์ดิฟฟ์ และเกมที่ตึงเครียดถูกตัดสินด้วยลูกฟรีคิกของ เบล แม้มันอาจไม่ใช่ประตูที่สวยงามที่สุดแต่เจ้าตัวยอมรับว่านี่คือประตูที่สำคัญที่สุดในชีวิตหลังช่วยให้ทีมเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี “นี่คือผลการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลเวลส์” เบล กล่าวหลังการแข่งขัน

9.ประตูในฟุตบอลโลกในเกมกับ อเมริกา

เวลส์ อาจทำผลงานไม่ดีนักในฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งเป็นครั้งแรกของพวกเขาในรอบ 64 ปี และมังกรแดง จอดป้ายเพียงแค่รอบแบ่งกลุ่ม มี 1 คะแนน จากการลงสนาม 3 นัด และยิงได้ 1 ประตู แต่นี้คือประตูประวัติศาตร์และประตูแรกในรอบเกินครึ่งศตวรรษในฟุตบอลโลกของพวกเขา และคนทำประตูก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก แกเร็ธ เบล

8.ประตูสุดสวยอำลาสเปอร์ส

ประตูสุดท้ายในพรีเมียร์ลีกของ เบล ในการอำลา สเปอร์ส รอบแรก เป็นหนึ่งในประตูที่สวยงามที่สุดของเขา เกิดขึ้นในเกมที่ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 และแนวรุกชาวเวลส์ ยิงไกลด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดส่งลูกบอลเสียงตาข่ายอย่างสวยงาม ในนาทีที่ 90 ของเกม ชนิดที่ ผู้รักษาประตูคู่แข่งหมดสิทธิเซฟ อย่างไรก็ตาม สเปอร์ส มี 72 แต้มในฤดูกาลนั้น ไม่เพียงพอจะผ่านเข้าไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนที่เขาจะย้ายไป เรอัล มาดริด

7.เป็นนักเตะค่าตัวแพงสุดในโลก

เรอัล มาดริด ทำให้ แกเร็ธ เบล กลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก ตอนที่เซ็นสัญญากับเขาเมื่อปี 2013 แนวรุกชาวเวลส์ ย้ายมาอยู่ในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาบิว ด้วยสัญญา 6 ปี รวมมูลค่าถึง 100 ล้านยูโร (85 ล้านปอนด์) ซึ่งเป็นสถิติสูงที่สุดในโลกในเวลานั้น และทำลายสถิติเดิมที่ทีมเคยคว้าตัว คริสเตียโน โรนัลโด้ จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์

6.ประตูตีเสมอในนัดชิงชนะเลิศ MLS คัพ

เบล ได้ลงสนามเพียง 13 นัดเท่านั้นในช่วงสั้นๆกับ แอลเอเอฟซี และเป็นตัวจริงเพียง 2 นัด แต่เขายังอำลาทีมด้วยการมีแชมป์ติดมือ ดาวเตะชาวเวลส์ ออกสตาร์ทเป็นตัวสำรองในเกม MLS คัพ นัดชิงชนะเลิศ กับ ฟิลาเดลเฟีย ยูเนียน เกมทำท่าจะจบลงด้วยความผิดหวังเมื่อ ฟิลาเดลเฟีย ได้ประตูขึ้นนำ 3-2 ในช่วงใกล้หมดเวลาของช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่แล้วในนาทีที่ 128 เบล ซึ่งลงสนามมาเป็นตัวสำรอง โหม่งประตูตีเสมอให้ทีมได้อย่างเหลือเชื่อ ก่อนที่ แอลเอเอฟซี จะชนะไปในการดวลจุดโทษ คว้าแชมป์ MLS คัพ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

5.ยิงประตูช่วย เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ UCL 2014

เรอัล มาดริด คือทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และมีจำนวนเป็นเลขสองหลักในปี 2014 และนัดชิงชนะเลิศ ราชันชุดขาว ต้องพบกับ แอตเลติโก มาดริด และทีมตราหมีเกือบเป็นฝ่ายได้ชูถ้วยเมื่อนำอยู่ 1-0 จนเกมเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บแล้ว แต่แล้ว เซร์คิโอ รามอส ทำประตูตีเสมอได้ในนาที 90+3 ทำให้ต้องไปเล่นต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ และเป็น เบล ที่ยิงประตูขึ้นนำ 2-1 ในนาที 110 และมาดริด มาได้เพิ่มอีก 2 ประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษจาก มาร์เซโล และ คริสเตียโน โรนัลโด้ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประตูของ เบล คือประตูที่ดับแรงฮึดของ แอตฯมาดริด อย่างแท้จริง

4.ประตูโซโล่ครึ่งสนาม นัดชิง โกปา เดล เรย์ กับบาร์เซโลนา

ประตูดังกล่าวเกิดขึ้นในเกมนัดชิงชนะเลิศ โกปา เดล เรย์ ปี 2014 กับ บาร์เซโลนา โดยทั้งสองเสมอกัน 1-1 จนถึงช่วงท้ายเกม แต่แล้วการเสียบอลของ ลิโอเนล เมสซี ทำให้ เบล ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายและใช้ความเร็วอันเป็นจุดเด่นฉีกหนี มาร์ค บาร์ทรา แบบขาดวิ่น และยิงผ่าน โฮเซ มานูเอล ปินโต เข้าไปเป็นประตูชัยให้ เรอัล มาดริด ชนะ 2-1

3.ฝันร้ายของ ไมคอน

หลังจากทำแฮตทริคในเกมที่ ซาน ซิโร ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อปี 2010 เบล ยังโชว์ฟอร์มแรงต่อเนื่องในเกมเลกสองที่ลอนดอน และไมคอน ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแบ็คขวาที่ดีสุดในโลกเวลานั้น แต่เขาต้องเจอฝันร้ายจากปีกจรวดชาวเวลส์ตลอดทั้งสองเกม จนต้องออกมายอมรับหลังเกมว่าเขาไม่สามารถหยุดความร้อนแรงของแนกรุกตัวเก่งไก่เดือยทองได้ ความจริงไม่ใช่แค่ ไมคอน เท่านั้น ต้องพูดว่าแนวรับของ อินเตอร์ มิลาน เจอฝันร้ายร่วมกันในการรับมือ แกเร็ธ เบล

2.แฮตทริคที่ ซาน ซิโร กับสเปอร์ส

เบล ทำให้ทั้งโลกหันมาจับตามองเขาด้วยการทำแฮตทริคให้ สเปอร์ส ในเกมกับ อินเตอร์ มิลาน ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อเดือนตุลาคมปี 2010 แม้สามประตูของเขาจะไม่เพียงพอ เมื่อจบเกม ไก่เดือยทอง พ่ายต่อ งูใหญ่ 3-4 แต่ทุกคนรู้กันแล้วว่าทีมดังแห่งลอนดอนมีเพชรเม็ดงามอยู่ในมือ

1.โอเวอร์เฮดคิกใส่ ลิเวอร์พูล ในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก

เบล ลุกจากม้านั่งสำรองมาทำได้ 2 ประตู ในเกมที่ เรอัล มาดริด พบกับ ลิเวอร์พูล ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2018 และหนึ่งในประตูของเขาในเกมนี้ ได้รับการยกย่องว่าอาจเป็นประตูที่สวยงามสุดที่เคยเกิดขึ้นในนัดชิงแชมป์ฟุตบอลถ้วยยุโร โดยจังหวะนี้เริ่มจาก มาร์เซโล ได้บอลทางฝั่งซ้ายและครอสมาในกรอบเขตโทษ ซึ่งบอลเหมือนจะย้อนหลัง เบล ไปแล้ว แต่แนวรุกชาวเวลส์ทำเรื่องเหลือเชื่อเมื่อยิงประตูแบบโอเวอร์เฮดคิกส่งบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม


สนใจสมัคร แทงบอล ได้ที่ Kingufa

สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : คลิกที่นี่

ข้อมูลอ้างอิง : คลิกที่นี่