อาแย็กซ์

เรามาต่อจากพาร์ทแรกกัน ที่เราได้รวบรวม นักฟุตบอล และคัดเลือกสุดยอดนักเตะจากผลผลิตของสโมสรที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในอะคาเดมีที่ดีที่สุดในโลกอย่าง อาแย็กซ์ อัมสเตอร์ดัม จะมีนักเตะคนไหนกันบ้างไปดูกันเลย

นักฟุตบอลอาแย็กซ์ ระดับโลกที่มาจากการปั้นของ อะคาเดมีอาแย็กซ์ พาร์ทที่ 1

นักฟุตบอล ที่มาจากการปั้นของ อะคาเดมี อาแย็กซ์ พาร์ทที่ 2

1.โยฮัน ครัฟฟ์

หนึ่งในบุคคลผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล เข้าร่วมอะคาเดมีของอาแย็กซ์ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 10 ปี ก่อนจะได้ประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ครั้งแรกด้วยวัย 17 ปี เมื่อปี 1964 และครัฟฟ์ ค้าแข้งให้อาแย็กซ์รวมทั้งหมด 11 ปี โดยแบ่งเป็นการอยู่กับทีมสองรอบในช่วงปี 1964-1973 และช่วงปี 1981-1983 โดยคว้าแชมป์เอเรอดีวีซี 8 สมัย รวมถึงยูโรเปี้ยน คัพ 3 สมัย แต่เขายังเป็นเจ้าของสถิติทำประตูให้อาแย็กซ์สูงสุดตลอดกาลอันดับ 2 ด้วยการยิงไปถึง 270 ประตู เป็นรองอันดับ 1 พีท ฟาน เรเนน เพียงแค่ 8 ประตูเท่านั้น ขณะที่ชีวิตหลังแขวนสตั๊ด ครัฟฟ์ ยังเป็นผู้วางรากฐานสำคัญของทั้งอาแย็กซ์ รวมถึงอีกหนึ่งสโมสรคู่บุญของเขาอย่างบาร์เซโลนา ให้สองสโมสรนี้มีทั้งระบบการเล่นและโครงสร้างอะคาเดมีแข็งแกร่งที่สุดในโลก

2.รุด โครล

ตำนานแบ็คซ้ายทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เข้าร่วมอะคาเดมีของอาแย็กซ์ในปี 1967 กระทั่งได้โอกาสได้โอกาสลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในปีต่อมา และโครล ค้าแข้งให้อาแย็กซ์นานถึง 12 ปี โดยคว้าแชมป์เอเรอดีวีซี 6 สมัย รวมถึงยูโรเปี้ยน คัพ 3 สมัย แต่หลังอำลาอาแย็กซ์ เขาโยกไปเล่นให้กับแวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์, นาโปลี และปิดท้ายด้วยกานส์ ทีมเล็ก ๆ ในงฝรั่งเศสกระทั่งแขวนสตั๊ดเมื่อปี 1986

3.พีท ไกเซอร์

ดาวเตะวันคลับแมนผู้ค้าแข้งให้อาแย็กซ์เพียงสโมสรตลอดอาชีพ เข้าร่วมอะคาเดมีของอาแย็กซ์เมื่อปี 1955 ก่อนจะได้ประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ในปี 1961 และจากนั้น ไกเซอร์ ลงเล่นให้อาแย็กซ์ยาวนานถึง 13 ปี จนกระทั่งตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 1974 โดยคว้าแชมป์เอเอรดีวีซี 6 สมัย รวมถึงยูโรเปี้ยน คัพ 3 สมัย

4.มาร์โก ฟาน บาสเทน

เจ้าของฉายา “เพชฌฆาตพรายกระซิบ” เข้าร่วมอะคาเดมีของอาแย็กซ์ในปี 1981 ก่อนจะได้โอกาสประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในปีต่อมา และฟาน บาสเทน ลงเล่นให้อาแย็กซ์เป็นเวลา 6 ฤดูกาล คว้าแชมป์เอเรอดีวีซี 3 สมัย รวมถึงยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย แต่จากนั้นเขาย้ายไปอยู่กับเอซี มิลาน และยกระดับตัวเองกลายเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกของยุคนั้น การันตีด้วยแชมป์เซเรีย อา 3 สมัย, ยูโรเปี้ยน คัพ 3 สมัย รวมถึงยังได้รางวัลบัลลงดอร์ 3 สมัยอีกด้วย และน่าเสียดายที่ปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้เขาได้ลงเล่นเกมสุดท้ายในชีวิตค้าแข้งด้วยวัยเพียงแค่ 28 ปีเท่านั้น

5.แฟรงค์ ไรจ์การ์ด

ดาวเตะเชื้อสายซูรินาม เข้าร่วมอะคาเดมีของอาแย็กซ์ตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อยเมื่อปี 1970 กระทั่งถูกดันขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 1980 และต่อมาในปี 1987 เขาย้ายไปอยู่กับสปอร์ติ้ง ลิสบอน แต่ยังไม่ทันได้ลงสนามก็ถูกปล่อยให้ เรอัล ซาราโกซา ยืมตัวไปใช้งาน 1 ปี จนกระทั่งเมื่อหมดสัญญายืมตัว ไรจ์การ์ดก็ถูกเอซี มิลานคว้าตัวไปร่วมทีม เพื่อไปสร้างตำนานเป็นสามทหารเสือดัตช์ร่วมกับ รุด กุลลิท และ มาร์โก ฟาน บาสเทน และจากนั้นในปี 1993 ไรจ์การ์ดเลือกย้ายกลับมาเล่นให้อาแย็กซ์อีกครั้ง ก่อนกลายเป็นพี่ใหญ่ในทีมชุดรวมดาวรุ่งของ หลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งก้าวไปคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในปี 1995 และเขาก็ตัดสินใจแขวนสตั๊ดหลังจบฤดูกาลนั้นทันที

6.เดนนิส เบิร์กแคมป์

เจ้าของฉายา “นอน-ฟลายอิ้ง ดัตช์แมน” เข้าร่วมอะคาเดมีของอาแย็กซ์ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 11 ปี ก่อนจะได้ประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปี เมื่อปี 1986 และเบิร์กแคมป์ค้าแข้งกับอาแย็กซ์ 7 ปี คว้าแชมป์เอเรอดีวีซี 1 สมัย, ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย และยูฟ่า คัพ 1 สมัย ก่อนจะย้ายไปอยู่กับอินเตอร์ มิลานในปี 1993 แต่ทว่ากลับไม่ประสบความสำเร็จกับงูใหญ่ ทำให้ตัดสินใจโยกไปอยู่กับอาร์เซนอลในปี 1995 และกลายเป็นตำนานของเดอะ กันเนอร์สจนกระทั่งแขวนสตั๊ดในปี 2006 โดยที่สโมสรให้เกียรติสร้างรูปปั้นของเขาไว้ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยมอีกด้วย

7.แฟรงค์ เดอ บัวร์

ตำนานกองหลังของเนเธอร์แลนด์ เข้าร่วมอะคาเดมีของอาแย็กซ์เมื่อปี 1984 ก่อนจะได้โอกาสประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่นัดแรกในปี 1988 และเดอ บัวร์ ค้าแข้งกับอาแย็กซ์ยาวนานถึง 10 ปีครึ่ง คว้าแชมป์เอเรอดีวีซี 5 สมัย, ยูฟ่า คัพ 1 สมัย รวมถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย ก่อนจะย้ายไปอยู่กับบาร์เซโลนาในช่วงต้นปี 1999 และจากนั้นหลังอำลาบาร์เซโลนาในปี 2003 เขาพเนจรไปอยู่กับกาลาตาซาราย, เรนเจอร์ส รวมถึงสองสโมสรในกาตาร์อย่าง อัล-รายยาน และอัล-ชามาล กระทั่งแขวนสตั๊ดในปี 2006

8.เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์

ตำนานผู้รักษาประตูอันดับหนึ่งตลอดกาลของเนเธอร์แลนด์ เข้าร่วมอะคาเดมีของอาแย็กซ์ในปี 1990 กระทั่งถูกดันขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ในปีต่อมา และฟาน เดอร์ ซาร์ คว้าแชมป์เอเรอดีวีซี 4 สมัย, ยูฟ่า คัพ 1 สมัย รวมถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย ก่อนจะย้ายไปอยู่กับยูเวนตุสในปี 1999 ตามด้วยฟูแลมในปี 2001 แต่จากนั้นในปี 2005 เขาตัดสินใจย้ายมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานผู้รักษาประตูในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย รวมถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพิ่มให้ตัวเองอีก 1 สมัย กระทั่งประกาศแขวนถุงมือในปี 2011


สนใจสมัคร แทงบอล ได้ที่ Kingufa

สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : คลิกที่นี่

ข้อมูลอ้างอิง : คลิกที่นี่