นักฟุตบอลชุดดรีมทีม

อาร์เซนอล อีกหนึ่งสุดยอดทีมฟุตบอลที่ถือว่าประสบความสำเร็จมาก13 แชมป์ลีก และ 14 แชมป์เอฟเอ คัพที่ประดับอยู่ในตู้โชว์ เป็นเครื่องการันตีว่าที่ผ่านมาทัพเดอะ กันเนอร์สเต็มไปด้วยยอด นักฟุตบอลชุดดรีมทีม ชื่อดังระดับโลกตลอดช่วงศตวรรษที่ผ่านมา และมีการพูดถึงชุดดรีมทีมอาร์เซนอลอยู่ตลอดเวลา ไล่มาตั้งแต่ยุคครองอำนาจของ เฮอร์เบิร์ต แชปแมน ยุค 1930 มาจนถึงทีมระดับตำนานของ อาร์เซน เวงเกอร์

นักฟุตบอล ที่ลูกไม้ตกไม่ไกลต้น พ่อลูกฝีเท้าขั้นเทพ

11 นักฟุตบอลชุดดรีมทีม ของ อาร์เซนอล ที่ดีสุดตลอดกาล

1.ผู้รักษาประตู : เดวิด ซีแมน

อาร์เซนอล มีสุดยอดนายประตูมากมายในประวัติศาสตร์สโมสร เช่น แพต เจนนิงส์ และ แจ็ค เคลซีย์ แต่ เดวิด ซีแมน ยืนเหนือนายประตูทุกคน

นายประตูทีมชาติอังกฤษ คว้าแชมป์ดิวิชั่นหนึ่งกับอาร์เซนอลก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรีเมียร์ลีกในปี 1992 และยังคงเป็นมือหนึ่งของทีมจนถึงฤดูกาล 2003/04 ก่อนย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็นฤดูกาลสุดท้าย และซีแมน คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย ลงเฝ้าเสาให้ทีมไป 325 นัด ซึ่งมีเพียง เรย์ พาร์เลอร์ ที่ลงสนามมากกว่า

2.แบ็คขวา : ลี ดิกสัน

ดิกสัน คือ นักฟุตบอล ที่ลงสนามมากที่สุดอันดับสี่ของ อาร์เซนอล และดิกสัน ย้ายจากสโต๊ค ซิตี้ มาร่วมทีมในเดือนมกราคม ปี 1988 ด้วยค่าตัว 300,000 ปอนด์ ก่อนลงสนามให้ทีม 619 นัดและรีไทร์ในปี 2002 เป็นรองเพียง เดวิด โอเลียรี, โทนี อดัมส์ และ จอร์จ อาร์มสตรอง ที่ลงสนามมากกว่า แต่แบ็คขวารายนี้คว้าแชมป์ลีก 4 สมัย, เอฟเอ คัพ สามสมัย, ลีก คัพ และ คัพ วินเนอร์ส คัพ อีกอย่างละสมัย

ดิกสัน อยู่ในชุดที่ประสบความสำเร็จของ จอร์จ แกรม และอยู่ในช่วงที่ อาร์แซน เวงเกอร์ เข้ามาสร้างทีมแม้ว่าจะมีนักเตะที่โดดเด่นทั้งก่อนและหลัง ดิกสัน แต่น้อยคนนักที่จะประสบความสำเร็จกับ อาร์เซนอล ได้เหมือนกับเขา

3.เซ็นเตอร์แบ็ค : โทนี อดัมส์

เขาคือมิสเตอร์​ อาร์เซนอล! คนที่จะมีชื่อเป็นคนแรก ๆ ใน 11 ตัวจริง และเป็นหนึ่งในคนที่สำคัญที่สุดของทีม อดัมส์ ลงสนามช่วยทีม 255 นัดในพรีเมียร์ลีก คว้าแชมป์ลีกสองสมัยในปี 1998 และ 2002 รวมถึงแชมป์ดิวิชั่นหนึ่งในปี 1989 และ 1991 นอกจากน้ี เขายังพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 3 สมัย, ลีก คัพ 2 และ คัพ วินเนอร์ส คัพ และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคือกัปตันทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาร์เซนอลที่เคยมีมา

4.เซ็นเตอร์แบ็ค : แฟรงค์ แม็คลินท็อค

แม็คลินท็อค เซ็นสัญญาย้ายมาร่วมทีมอาร์เซนอล โดย บิลลี่ ไรท์ ในปี 1964 ด้วยค่าตัวสถิติสโมสรในตอนนั้น 80,000 ปอนด์ แม้ว่าต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะพิสูจน์ตัวเองกับทีม ซึ่งเขาเริ่มฉายแววในยุคของกุนซือ เบอร์ตี้ มี ในปี 1968

หลังจากแพ้รอบชิงฯ ลีก คัพ สองปีติด เขาพา อาร์เซนอล คว้าแชมป์เมเจอร์ในปี 1970 หลังเอาชนะ อันเดอร์เลทช์ คว้าแชมป์ อินเตอร์-ซิตี้ แฟร์ คัพ และก่อนที่กองหลังรายนี้จะพา อาร์เซนอล คว้าแชมป์ลีกและลีกคัพ ดับเบิลแชมป์ ในปี 1971 และคว้านักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี สุดท้าย เขาย้ายออกจากอาร์เซนอลไปร่วมทีม คิวพีอาร์​ในปี 1973

5.แบ็คซ้าย : เอ็ดดี้ แฮปกู้ด

แฮปกู้ด ถูก เฮอร์เบิร์ต แชปแมน คว้าตัวจาก เค็ตเตอร์ริง ทาวน์ สโมสรเล็ก ๆ มาร่วมทีมในปี 1927 ด้วยค่าตัวตอนนั้น 950 ปอนด์ และเขากลายมาเป็นกัปตันทีม อาร์เซนอล ยุครุ่งเรืองในยุค 1930 และเขาลงสนามให้อาร์เซนอล 440 นัดรวมทุกรายการ และคว้าแชมป์ดิวิชั่นหนึ่ง 5 สมัย และเอฟเอ คัพ อีกสองสมัย แต่แบ็คซ้ายรายนี้ค้าแข้งกับ อาร์เซนอล ยาวนาน 12 ปี ก่อนเกิดเหตุสงครามโลกครั้งที่สอง

แฮปกู้ด เสียชีวิตในปี 1973 ในวัยเพียง 64 ปี ซึ่งเขาต่างได้รับการยกย่องเป็นการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดดีลหนึ่งในประวัติศาสตร์สโมสร

6.กองกลาง : แพทริค วิเอรา

จากโมเมนต์ที่ วิเอรา ลุกจากม้านั่งสำรองมาประเดิมสนามในเกมพบ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ที่ ไฮบิวรี ในปี 1996 ทำให้เรารู้ได้ในทันทีว่าเขาจะเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยม แต่มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย และเป็นกัปตันทีมยุค “ไร้พ่าย” ในฤดูกาล 2003/04

ความยอดเยี่ยมของ วิเอรา ในการป้องกันแผงแบ็คโฟร์ยอดเยี่ยมพอ ๆ กับยามที่เขาทำเกมขึ้นมาประสานงานกับแนวรุก และเขาคือหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ อาร์เซนอล ลงสนามในพรีเมียร์ลีก 279 นัดก่อนย้ายไปร่วมทีม ยูเวนตุส ในปี 2005

7.กองกลางตัวรุก : เลียม เบรดี้

เบรดี้ ถูกยกอยู่ในระดับเดียวกับ เดนนิส เบิร์กแคมป์ ว่าเป็นยอดนักเตะพรสวรรค์ที่ได้ลงสนามให้กับ อาร์เซนอล และเขาลงสนามให้ทีม 307 นัดในช่วง 1973 ถึง 1980 ก่อนย้ายออกไปอยู่กับ ยูเวนตุส

แต่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขาคือรอบชิงฯ เอฟเอ คัพ 1979 ที่พาทีมเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-2 รวมถึงลูกยิงสุดสวยในเกมถล่ม ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 5-0 ถึง ไวท์ ฮาร์ท เลน

8.ปีกซ้าย : คลิฟฟ์ บาสติน

บาสติน ครองสถิติดาวซัลโวสูงสุดของ อาร์เซนอล นานกว่า 5 ทศวรรษก่อนจะโดน เอียน ไรท์ ทำลายในปี 1997 และเขาย้ายจาก เอ็กเซเตอร์ ซิตี้ ในปี 1929 โดย เฮอร์เบิร์ต แชปแมน เดินทางไปชมเกมที่พบ วัตฟอร์ด ด้วยตาตัวเอง ก่อนถูกใจ บาสติน เข้าอย่างจังและคว้าตัวเขามาร่วมทีม และบาสติน ทำไปทั้งหมด 178 ประตูจาก 395 เกมให้ อาร์เซนอล พาทีมคว้าแชมป์ลีก 5 สมัยและเอฟเอ คัพ 2 สมัย หากไม่มีสงครามโลกครั้งที่สอง น่าจะทำให้ บาสติน ยิงประตูให้ อาร์เซนอล ได้มากกว่านี้

9.ปีกขวา : เฟร็ดดี้ ลุงเบิร์ก

ลุงเบิร์ก แทบไม่เป็นที่รู้จักตอนที่ อาร์แซน เวงเกอร์ คว้าตัวเขามาร่วมทีมจากสวีเดนในปี 1998 ก่อนที่เขาจะสร้างผลงานกลายเป็นตำนานในช่วงเวลา 9 ปีที่อยู่กับทีม

อันที่จริง ประตูยิงใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมนัดประเดิมสนาม ก็น่าจะทำให้เขาไปนั่งอยู่ในใจแฟนอาร์เซนอลไปแล้วในตอนนั้น และลุงเบิร์ก คว้าแชมป์ลีก 2 สมัยและเอฟเอ คัพ 3 สมัย และเป็นกำลังสำคัญในยุคไร้พ่ายของทีม โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขาคือฤดูกาล 2001/02 ที่พา อาร์เซนอล คว้าแชมป์ลีกและฟุตบอลถ้วยแบบ ด้วยฟอร์มยิง 7 ประตูจาก 7 เกมในช่วงท้ายฤดูกาล

10.กองหน้า : เดนนิส เบิร์กแคมป์

หลายคนยกย่องให้เขาเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ อาร์เซนอล กองหน้ารายนี้ย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน มาร่วมทีมในปี 1995 ด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 7.5 ล้านปอนด์ ซึ่งเขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามันเป็นราคาที่เกินคุ้มค่า เบิร์กแคมป์ ค้าแข้งกับทีมนาน 10 ปี พาทีมคว้าแชมป์ลีก 3 สมัย และเอฟเอ คัพ 4 สมัย อีกทั้งยังเป็นนักเตะยอดเยี่ยมพีเอฟเอและสมาคมนักข่าวในปี 1998 และเขาทำ 120 ประตู รั้งอันดับ 11 ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของ อาร์เซนอล และการจับบอล, เทคนิค, วิชั่น ทำให้หลาย ๆ คนใฝ่ฝันที่จะได้เล่นร่วมกับเขา กองหน้าดัตช์แมนทำแอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกไป 94 ครั้ง

“เดนนิส คือคนที่สร้างความสำเร็จทั้งหมด” ไรท์ พูดถึงอดีตเพื่อนร่วมทีม “เขาคือการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของสโมสร เขาเปลี่ยนดีเอ็นเอของสโมสร”

11.กองหน้า : เธียร์รี อองรี

เจ้าของสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์อาร์เซนอล และน้อยคนที่จะคิดว่าเขาจะประสบความสำเร็จสูงสุดกับ อาร์เซนอล ตอนที่ อาร์แซน เวงเกอร์ ดึงตัวเขามาร่วมทีม แม้จะล้มเหลวในการเล่นให้กับ ยูเวนตุส ก่อนที่เขาจะกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของพรีเมียร์ลีก และเขาทำ 175 ประตูจาก 258 เกม ทำ 74 แอสซิสต์ พาทีมคว้าแชมป์ลีก 2 สมัย รางวัลดาวซัลโว 4 สมัย และนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก 2 ครั้ง


สนใจสมัคร แทงบอล ได้ที่ Kingufa

สามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : คลิกที่นี่

ข้อมูลอ้างอิง : คลิกที่นี่